จากกรณีโศกนาฏกรรมรถทัวร์สายใต้เสียหลักชนต้นไม้ ผู้โดยสารเสียชีวิตและเจ็บยกคัน เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ร.ต.ท.อานนท์ โตตั้ง รอง สว. (สอบสวน) สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งรถทัวร์โดยสารเสียหลักชนต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ กม.ที่ 331-332 ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร หมู่ 7 ต.ห้วงยาง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.อำเภอทับสะแก หน่วยกู้ชีพ รพ.ทับสะแก รพ.ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน และสว่างประจวบธรรมสถาน พบรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้นสีฟ้า-ขาว สายกรุงเทพฯ- นาทวี ของบริษัทศรีสยามเดินรถ จำกัด หมายเลขทะเบียน 14-3301 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 9914-1 ม.4 ข เสียหลักตกอยู่ริมถนน
หน้ารถชนอัดติดกับต้นไม้ใหญ่พังยุบผ่าเป็นสองซีกไปถึงกลางคัน กระจกแตกกระจาย ล้อหน้าหลุด ภายในรถพบผู้โดยสารต่างกระเด็นออกจากเบาะที่นั่งเสียชีวิตและบาดเจ็บมากองอยู่ด้านหน้าจำนวนมากส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนลำเลียงแยกส่ง รพ.ทับสะแก และ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ รวม 35 คน ในจำนวนนี้มีนายสมศักดิ์ มากเอียด อายุ 38 ปี โชเฟอร์รถทัวร์บาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 14 ราย เจ้าหน้าที่ทยอยนำร่างออกจากซากรถส่งไปชันสูตร
และหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือน้อง เฟิร์น หรือ นางสาวศุภรัตนา เหตุทอง อายุ 24 ปีแม่ของน้องเฟิร์น บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวยังทำใจให้ยอมรับไม่ได้ มันเร็วเกินไป น้องเฟิร์น นิสิตหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตสาขาวิชาศิลปศึกษา
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กำลังจะจบ อยู่ในขั้นตอนการทำวิจัย โดยการกลับบ้านของลูกสาว นอกจากจะมาเซอร์ไพรส์ ผู้เป็นพ่อแล้ว น้องเฟิร์น เดินทางมาเพื่อเก็บดิน ทำวิจัยเรื่องสี แต่มาไม่ถึงบ้าน กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน