จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งใช้อาวุธปืน ของอดีตสามี ซึ่งเป็นตำรวจยิงตัวเองภายในแฟลตตำรวจ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ต่อมา นางอรอุมา อายุ 51 ปี แม่ของ น.ส.กานต์พิชชา อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมมารับศพลูกสาวที่ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อรีบร่างของลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
โดยนางอรอุมา เผยว่า ลูกสาวแต่งงานกับนายตำรวจคนหนึ่ง มีลูกด้วยกัน 1 คน เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้ย้ายไปอยู่ที่แฟลตตำรวจนครบาล 8 ต่อมาเมื่อปลายปี 2565 ลูกสาวเลิกรากับนายตำรวจคนดังกล่าว จากนั้นลูกสาวได้ไปอยู่กับเพื่อน ๆ และมีแฟนใหม่ แต่ก็ยังไม่มาหาสู่กับ อดีตลูกเขยที่เป็นตำรวจอยู่บ้าง
ก่อนเกิดเหตุ อดีตลูกเขย โทรมาบอกว่า ลูกสาวไปอยู่ด้วย และอยากเจอหลานที่อยู่กับตนเอง แต่เนื่องจากไม่มีคนอยู่ที่บ้าน จึงไม่ได้ให้อดีตลูกเขยมารับหลานไป จนกระทั่งมาทราบข่าวภายหลังว่า ลูกสาวของตนเสียชีวิตแล้ว
ส่วนอดีตลูกเขยที่เป็นนายตำรวจ ตนไม่ได้ติดใจ เพราะเขาเป็นคนดี นิสัยโตเป็นผู้ใหญ่กว่าลูกสาว ที่ผ่านมาอดีตลูกเขยมักจะโทรมาไถ่ถามสารทุกสุกดิบกับตนมากกว่าลูกสาวเสียอีก ตอนที่เขายังไม่เลิกกัน อดีตลูกเขยมักจะมารับหลานไปเลี้ยง หรือไปเจอลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ได้ติดใจในส่วนของลูกเขย
แต่ที่รู้สึกติดใจคือกลุ่มเพื่อนของลูกสาวมากกว่า เพราะปกติลูกสาวเป็นคนร่าเริง ไม่ค่อยเครียด ต้องมีสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะก่อนวันเกิดเหตุมีเพื่อน พยายามมาขอแม่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ซึ่งในรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย แต่เชื่อว่า เป็นสาเหตุที่กดดันให้ลูกสาวตนตัดสินใจแบบนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบด้วย เพื่อมอบความเป็นธรรมให้กับลูกตนด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.8. ได้เผยว่า ภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด จากการตรวจสอบเบื้องต้นและการสอบปากคำ ทราบว่าในช่วงเกิดเหตุผู้เสียชีวิตอยู่ห้องคนเดียว ส่วนอดีตสามี ลงไปกินข้าว ส่วนสถานที่เกิดเหตุไม่มีการต่อสู้หรือรื้อค้นแต่อย่างใด หลังจากนี้ก็ต้องสอบปากคำพยานซึ่งอยู่ห้องข้าง ๆ ว่าพบสิ่งผิดปกติอะไรหรือไม่ รวมไปถึงสอบปากคำญาติด้วยถึงสาเหตุและติดใจอะไรหรือไม่เพื่อนำมาประกอบสำนวนต่อไป