จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษที่หนีออกจากโรงพยาบาลนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 กระทั่งเจ้าหน้าที่พบว่าหนีไปอยู่กลางป่าบนเทือกเขาบรรทัดจนนำไปสู่การปิดล้อมตรวจค้นและเกิดการปะทะกันกลางป่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเสี่ยแป้ง สามารถหลบหนีวงล้อมของตำรวจไปได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดมทีมติดตามไล่ล่านานกว่า 1 เดือน แต่ก็ยังไร้วี่แววเจอตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เสี่ยแป้ง ได้ออกมาปรากฎตัวครั้งแรก ชี้แจงว่า โดยพฤติการณ์ มาจากที่พวกเขาได้มีการพูดคุย และนั่งปรึกษาก่อนที่จะโทรมาหาตนเพื่อให้ไปช่วยเหลือ ยอมรับว่าการปล้นครั้งดังกล่าว ตนเองได้เดินทางไปร่วมด้วยจริง และไปปล้นเอง ซึ่งไปพร้อมกับทุกคนที่ตนกล่าวถึง ตนอยากถาม สาเหตุว่าทำไมเค้าถึงไม่มีการฟ้องกับบุคคลอื่นที่กล่าวมาทั้งที่ทราบกันดีว่าบุคคลเหล่านั้นร่วมขบวนการด้วย หนำซ้ำตอนนั้นเองก็ยังเป็นคดีดัง ตนอยากให้พี่น้องชาวไทยได้ช่วยกันตรวจสอบ ยืนยันว่าบุคคลที่เอาเงินจากตนไป คือ อัยการ การที่มีข่าวเรื่องข่มขู่ อัยการที่จังหวัดสงขลา ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำ เพราะพฤติกรรมการข่มขู่ตนไม่ทำแน่นอน
ส่วนเรื่องที่มีการปล่อย และระบุว่าเป็นการข่มขู่จากฝีมือตน เป็นกระบวนการที่หวังผลประโยชน์ให้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวิสามัญตน ลักษณะคล้ายเหมือนให้ร้าย และมองว่าตนเป็นนักโทษที่ไม่รู้สึกผิด ทั้งที่สำนักงานอัยการดังกล่าวย่อมมีกล้องวงจรปิด แต่ทำไมถึงไม่มีใครตรวจสอบหรือออกมาเปิดเผยผลสุดท้ายของบุคคลที่มีการข่มขู่ ทำไมไม่ไปดูว่าใครเป็นคนขู่ โดยวันที่มีการปะทะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจที่จะเดินทางไปวิสามัญตน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 มีปัญหาโดยตรงกับตน เรื่องที่มีการจับกุมเเล้วเอาปืนไปจี้ ดูได้จากข่าวในอดีตที่ตนเคยพาชาวบ้านไปประท้วงแจ้งความ
มองว่าเหตุการณ์ปะทะวันนั้นตั้งใจแน่นอน จากที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเอ็ม 76 รวมแล้ว 10 กว่านัดที่นับได้ อยากย้อนถามว่าเหตุการณ์วันดังกล่าวที่มีการระบุว่าตนเองมีการไล่ยิงเจ้าหน้าที่กลับนั้น อยากให้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่มาเจอตนคนเเรกที่วิ่งหลบหนี ว่าเหตุการณ์วันนั้นตนตั้งใจจะยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจสวนกลับหรือเป็นการยิงขึ้นฟ้า เพราะวันนั้นทางเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมาเห็นตนคนแรก แต่ตนกลับยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อให้เขาวิ่งหนี ทั้งที่ตนสามารถจ่อยิงกลางหลังให้เสียชีวิตได้ ตนทำผิดก็ยอมรับว่าคือคนผิด และยังมองว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ตนเองปะทะด้วย เขาก็มีครอบครัวมีลูกเมีย ตนไม่คิดที่จะต่อสู้หรือสวนกลับตามที่มีการแถลงข่าว
ตนอยากให้สังคมไทยย้อนดูกฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรม ว่ายุติธรรมกับตนหรือคนอื่นหรือไม่ ยังมีอีกหลายประเด็นที่ตนเองอยากจะออกมาพูดคุย แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่ตนต้องการคืออยากให้มีการดำเนินการอัยการกับพวกที่ตนกล่าวไป หากมีการดำเนินการแล้วตนยืนยันพร้อมที่จะเดินเข้าไปมอบตัว แต่หากยังนิ่งเฉยและไม่ดำเนินคดีกับทางอัยการ ตนก็จะไม่ไปมอบตัวแน่นอน ถ้าจะไปก็คงต้องไปเป็นศพแน่นอน ในเมื่อความยุติธรรมไม่มีตนก็ไม่ไป หากสิ่งไหนที่ตนเองทำผิดพลาดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนก็ต้องขออภัยด้วย ตนก็ไม่เคยคิดจะต่อสู้แต่อย่างใด รวมไปถึงตนเองอยากจะขอโทษในส่วนของพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่หมู่บ้านตระ หรือพี่น้องชาวไทยเดือดร้อน ตนก็ขอกราบขอโทษด้วย