วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566สำนักข่าวดังรายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ส่งฟ้องสำนวนคดี สว.ศิวกร ถูกยิงเสียชีวิต ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก และคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไปยังพนักงานอัยการ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมด้วยชุดสืบสวนและสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมในการดำเนินคดีกับ นายประวีณหรือกำนันนก
นายธนัญชัยฯ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นฯ และออกหมายจับนายประวีณฯ ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นฯ กระทั่งนายธนัญชัยหรือหน่องฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เนื่องจากต่อสู้ขัดขวางขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม และนายประวีณหรือกำนันนกฯ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดอย่างเต็มกำลังความสามารถและกระทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้ผู้กระทำความผิดนั้นต้องได้รับโทษอย่างถึงที่สุดในกระบวนการยุติธรรม
ล่าสุด คณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย สำนวนการสอบสวนมีความครบถ้วนสมบูรณ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 คดี อันมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คดีที่ 1 คดีนายประวีณหรือกำนันนกฯเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด (เลขคดี 24/2566)
สำนวนการสอบสวนมีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยประจักษ์พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ พยานผู้เชี่ยวชาญ พยานแวดล้อม รวมจำนวนทั้งสิ้น 67 ปาก
พยานวัตถุประกอบด้วย อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หัวและปลอกกระสุน เครื่องบันทึกไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดและไฟล์วิดีโอของกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ในส่วนพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีข้อมูลภาพเหตุการณ์ที่สามารถใช้ยืนยันการกระทำความผิดของนายประวีณหรือกำนันนกฯ ได้
โดยคณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็น “สั่งฟ้อง” นายประวีณหรือกำนันนกฯ ในข้อหา “ผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด” ตาม ป.อาญา
ม.288,80,60 ประกอบ ม.84 สำนวนการสอบสวนจะส่งไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา เพื่อฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ต่อไป
ในส่วนความผิดของนายธนัญชัยหรือหน่องฯ ในคดีนี้ มีความเห็น สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ด้วยเหตุผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย
คดีที่ 2 คดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ (เลขคดี 25/2566)
สำนวนการสอบสวนมีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยประจักษ์พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ พยานผู้เชี่ยวชาญ พยานแวดล้อม รวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ปาก
พยานวัตถุประกอบด้วย อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หัวและปลอกกระสุน เครื่องบันทึกไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดและไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ในส่วนพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีข้อมูลภาพเหตุการณ์ที่สามารถใช้ยืนยันการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละรายที่อยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ได้
โดยคณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็น “สั่งฟ้อง” ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติการณ์ไม่จับกุมผู้ต้องหา ไม่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ไม่ทำการสืบสวนไปตามหน้าที่ ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนี พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถูกทำให้เสียหาย สูญหาย ถูกทำลาย ทำให้เสียหายต่อการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมทั้งสิ้น 21 ราย (อยู่ในเรือนจำ 6 ราย , แจ้งข้อหาโดยไม่ควบคุม 15 ราย) ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด” ตาม ป.อาญา ม.157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ม.172 อีกทั้งยังดำเนินคดีกับพลเรือนผู้มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ และทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน รวม 7 ราย ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มลูกน้องคนสนิทของนายประวีณหรือกำนันนกฯ รวมถึงตัวนายประวีณหรือกำนันนกฯได้ถูกแจ้งข้อหาสนับสนุนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ เช่นกัน
โดยในวันที่ 16 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้นัดหมายส่งสำนวนการสอบสวน ทั้ง 2 สำนวนไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อไป