จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลว่าโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ บังคับให้นักเรียนและผู้ปกครองเซ็น MOU ว่าถ้านักเรียนสอบตกติดศูนย์ หรือติด มผ. จะต้องเสียค่าปรับหน่วยกิตละ 2,000 บาทนั้น โดยบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
1. นักเรียนจะต้องไม่ได้รับผลการเรียน เกรด 0, ไม่มีสิทธิ์สอบ (มผ) , ไม่ผ่านการประเมิน (มผ) ในทุกรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทั้งภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2
2. เมื่อผลการเรียนของนักเรียนคนใดปรากฎผลการเรียน เกรด 0, ไม่มีสิทธิ์สอบ (มผ) , ไม่ผ่านการประเมิน (มผ) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ นักเรียนจะต้องเสียค่าปรับให้แก่ครูที่ปรึกษา หน่วยกิตละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) เช่น ถ้าติด 0 วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน จำนวน 1.5 หน่วยกิต นักเรียนจะต้องชำระเงินค่าปรับจำนวน 3,000 บาท เป็นต้น
3. นอกจากค่าปรับจากการปรากฎผลการเรียน 0 มส และ มผ นักเรียนที่มีจำนวนเกรดดังกล่าว มากกว่า 4 ตัว นักเรียนจะต้องไปเข้าค่ายธรรมะหรือปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าที่ครูที่ปรึกษาจัดหาให้ พร้อมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในค่ายทุกอย่าง
4. ค่าปรับที่ได้รับจะถูกจัดสรรให้กับนักเรียนในห้อง 2 ที่มีผลการเรียนอับตับ 1- 5 ของห้องหรือมากกว่านั้นตามจำนวนเงินค่าปรับที่ได้รับมา
5. การปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ ให้เริ่มถือปฏิบัติตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เป็นตันไป
นั่นทำให้ ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า ดิฉันได้สอบถามข้อมูลกับคุณภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เขตอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ได้ข้อมูลว่าคุณภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ได้เข้าไปพูดคุยกับ ผอ.โรงเรียนแห่งนี้แล้ว ผอ.และผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้สั่งให้มีการเซ็น MOU ดังกล่าวเลย ครูประจำชั้นน่าจะทำขึ้นเอง และทาง ผอ. ได้แจ้งครู นักเรียน และผู้ปกครองทั้งหมดแล้วว่าให้ยกเลิก MOU เหล่านี้ค่ะ
ดิฉันอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า MOU แบบนี้ผิดกฎหมายค่ะ ทำไม่ได้ ไม่มีผลทางกฎหมาย ถ้าเกิดมีขึ้นอีกไม่ว่าในโรงเรียนใดก็ตาม ขอให้นักเรียนและผู้ปกครองเข้าไปพูดคุยปฏิเสธกับทางโรงเรียนได้เลย การที่นักเรียนสอบตกติดศูนย์ ครูผู้สอนจะต้องให้นักเรียนมาสอบซ่อม หรือส่งงานเพิ่ม จะมาใช้การปรับเงินแบบนี้ไม่ได้
และในนักเรียนบางคนที่เขาสอบตกติดศูนย์ ครูจะต้องมาทบทวนการสอนของตัวเอง ว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้างหรือเปล่า นักเรียนถึงได้ติดศูนย์ หรือครูต้องมาค้นหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น อาจเป็นเพราะนักเรียนคนนั้นไม่ชอบวิชานั้น ครูก็ต้องมาคิดค้นกิจกรรมการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละบุคคล หรือนักเรียนเรียนแล้วรู้สึกว่าวิชานั้นไม่เกิดประโยชน์สำหรับเขา ครูก็ต้องหาเทคนิค หาวิธีการสร้างแรงบันดาลให้เขาชอบวิชานั้น เห็นประโยชน์ของการเรียนวิชานั้นค่ะ