เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ร.ต.อ.เกียรติ พีรฉัตรปกรณ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.สิงหนคร รับแจ้งเกิดเหตุแทงกันในชุมชนหัวเขา พื้นที่หมู่ 4 ต.หัวเขา อ.สิงนคร จ.สงขลา หลังรับแจ้งได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.เหนือฟ้า มุสิเกตุ รอง ผกก.ป.สภ.สิงหนคร รรท.ผกก.สภ.สิงหนคร พ.ต.ท.ครรชิต นครามนตรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สิงหนคร และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นร้านรถเข็นขายข้าวแกง พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ถูกอาวุธมีดฟันและแทงเข้าบริเวณลำตัวหลายแผล ก่อนชาวบ้านได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสงขลาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อต่อมา คือ นายเล๊าะ พิทักษ์คุมพล อายุ 71 ปี เป็นน้องชายแท้ๆของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ส่วนคนก่อเหตุ คือ นายร่อหีม คงคาลิหมีน อายุ 47 ปี เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน หลังก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดจี้บังคับให้รถจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ในบริเวณเกิดเหตุขับพาหลบหนีไป
จากการสอบสวนถามแม่ค้าขายข้าวแกงที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ นายเล๊าะ ผู้ตายได้มาซื้่อข้าวแกงและวันนี้ได้นั่งอยู่ที่ร้านนานกว่าปกติ โดยตอนนั้นมีลูกค้าคนอื่นๆยืนอยู่ 3-4 คน ต่อมานายร่อหีม ได้มือมีดมาถามหาซื้อมะพร้าวที่ร้านข้างๆ และเดินออกมามุ่งตรงไปหานายเล๊าะ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนชักอาวุธมีดที่พกติดตัวมากระหน่ำแทง นายเล๊าะ โดยไม่ทราบสาเหตุจนล้มลงจากเก้าอี้ จึงพยายามวิ่งไปตามหาชาวบ้านมาช่วยพา นายเล๊าะ ส่งโรงพยาบาล
ด้านชายขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ถูกนายร่อหีม จี้ให้พาหลบหนี เล่าว่า ทีแรกนายร่อหีม ได้ใช้มีดจี้จะชิงรถแต่ตนไม่ยอมให้ และยังจะใช้มีดฟันตนด้วย จึงยอมขับรถพาไปส่ง ระหว่างทางก็ไม่ได้พูดอะไร โดยพาไปส่งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร และยอมลงจากรถเดินหนีไป
ต่อมาทางชุดสืบสวนสภ.สิงหนคร และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ได้สนธิกำลังลงพื้นที่ติดตามตัว นายร่อหีม และสามารถจับกุมตัวได้หลังก่อเหตุไม่นาน โดยไม่ได้หนีไปไหนยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่บ้านหัวเขา และคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.สิงหนคร และตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วงมีสารเสพติดในร่างกาย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายร่อหีม ถึงสาเหตุที่แทง นายเล๊าะ ก็ได้รับคำตอบที่วกไปวนมาไม่เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกับพูดขึ้นมาลอยๆจับต้นชนปลายไม่ได้คล้ายกับขาดสติ นอกจากนี้นายร่อหีม ยังอ้างว่ามาจากหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเงินแบ่งมรดก เรื่องบ้านเรื่องงานที่ไปสมัคร แล้วนายจ้างไม่รับ เพราะผู้ตายส่งคนไปกวน อ้างว่าถูกก่อกวนทุกวันไม่ได้นอน แม้แต่เวลาละหมาดหรือเวลาอ่านคัมภีร์อันกุรอ่าน ก็จะให้คนไปกวนและอ้างว่ายังเป็นญาติกันด้วย
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสาเหตุน่าจะมาจากอาการของผู้ต้องหาที่เล่นยาจนคลุ้มคลั่ง เนื่องจากติดยางอมแงม และมีประวัติเคยทำร้ายชาวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยจากอาการหลอนยาจนหวาดระแวงคนไปทั่ว กระทั่งเมื่อเช้านี้เกิดจากอาการหลอนยาโดยที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนเลย และผู้ตายไม่มีโอกาสต่อสู้หรือหนีเอาชีวิตรอด เพราะความชราและยังป่วยด้วย นอกจากนี้สอบสวนพยานแวดล้อมและญาติๆของผู้เสียชีวิตทราบว่าผู้ต้องหา กับคนตายไม่ได้เป็นญาติพี่น้องหรือเกี่ยวข้องอะไรกันตามที่กล่าวอ้างอีกด้วย