วันที่ 17 ต.ค.66 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาน.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายอายุ 14 ปีที่ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจนตั้งครรภ์ และคลอดลูกออกมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา เข้าพบ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เพื่อติดตามคดีดังกล่าว
น.ส.อ้อย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2565 นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พ่อแท้ๆ รับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ลูกสาว มาจาก จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยให้มาพักอยู่ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ด.ญ.บี ถูกนายสมชายกระทำชำเรา หลังเกิดเหตุ ด.ญ.บี หนีไปอยู่กับป้าที่ซอยอ่อนนุช 66 แยก 19-16 แต่นายสมชายยังตามกลับไปอยู่ด้วยกัน และกระทำชำเราอีก กระทั่งเปิดเทอมจึงส่งตัว ด.ญ.บีกลับไปเรียนที่ จ.บุรีรัมย์ ตามเดิม
จากนั้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ ระหว่างปลายเดือนธ.ค.65 ถึงต้นเดือนม.ค.66 นายสมชายเดินทางกลับไป จ.บุรีรัมย์ และได้กระทำชำเรา ด.ญ.บี อีก ต่อมาช่วงปิดเทอมเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายสมชายไปรับ ด.ญ.บี กลับมายังแคมป์คนงานก่อสร้างที่เดิมในกรุงเทพฯ เพื่อกระทำชำเรามาอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งเดือนพ.ค.66 ด.ญ.บี ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ ชั้นม.2 จนถึงช่วงเดือนส.ค. ครูสังเกตว่า ด.ญ.บี อาจตั้งครรภ์ จึงแจ้งป้าให้ตรวจสอบ ผลปรากฏว่าตั้งครรภ์จริง ป้าจึงพา ด.ญ.บีกลับไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อที่จะพาไปทำแท้ง เพราะคิดว่าลูกสาวท้องเพียง 1 เดือน แต่ทางแพทย์ไม่สามารถทำให้ได้ เพราะขณะนั้นลูกสาวท้องมาแล้ว 7 เดือน ต่อมาวันที่ 17 ส.ค. ตนทราบเรื่องดังกล่าว จึงรับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ กระทั่งลูกสาวคลอดไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา
น.ส.อ้อย กล่าวอีกว่า ตนเลิกรากับนายสมชายไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 3 ขวบ ซึ่งตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอาศัยอยู่กับพี่สาวนายสมชาย ซึ่งทางครอบครัวนั้นเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือมาโดยตลอด และหากลูกสาวประสงค์จะขอกลับมาอยู่ด้วยกับตน ก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของตัวลูกสาว
ส่วนสาเหตุที่ลูกสาวคนเล็กต้องอยู่กับนายสมชายนั้น เพราะตอนที่เลิกรากัน ตนถูกทำร้ายร่างกาย และนายสมชายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด จึงหนีออกมาประกอบกับขณะนั้นไม่มีเงิน จึงทำให้ไม่อยากพาลูกมาลำบากด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และเมื่อสอบถามลูกสาวก็ได้ความว่า ถูกพ่อกระทำชำเราจริง และไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็ต้องคอยดูแลลูกสาว พร้อมช่วยกันเลี้ยงดูเด็กที่คลอดมากันต่อไป
นางปวีณา กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีในครอบครัวที่ภาครัฐทุกหน่วยงานต้องบูรณาการ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก โดยในคดีนี้ทั้งแม่และลูกสาวเข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 ตุลาคม) ซึ่งก็ติดต่อประสานงานร่วมกันกับทาง สน.ประเวศ มาตลอด หลังจากนี้จะต้องคอยเยียวยาสภาพจิตใจทั้งแม่และลูกสาว พร้อมประสานกับทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเงินเยียวยาในส่วนของเงินช่วยเหลือ และประสานกับทางโรงเรียนให้เด็กเข้าเรียนหนังสือต่ออีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่ทราบเรื่องก็เชิญตัวเด็กหญิงผู้เสียหายมาสอบปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และผู้ปกครองแล้ว จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนำกำลังพร้อมหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ไปคุมตัวนายสมชาย ได้ที่แคมป์คนงานซอยอ่อนนุช 70/1 ก่อนพาตัวเข้ามาสอบปากคำที่โรงพัก
มีรายงานว่า ตอนแรกผู้ต้องหายังคง ให้การปฏิเสธ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนกดดันอย่างหนัก จึงยอมรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุล่วงละเมิดลูกสาวตัวเองจริงๆ
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจดีเอ็นเอเด็กที่คลอดออกมาว่าตรงกันหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดาน ก่อนจะคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป