วันนี้ (5 ต.ค. 2566) พ.ต.ท.ฐานธิษณ์ แดนราษี พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งเหตุหญิงถูกสังหารโหดทิ้งร่างในโอ่งข้างบ้าน เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ จึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ภัยประจิมบรบือ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างนางสุวรรณ อายุ 54 ปี สภาพนอนหงายอยู่ในโอ่งแดงข้างบ้านซึ่งมีน้ำแค่ก้นโอ่ง มือเท้าหงิกงอ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างขึ้นมา กลับพบว่าผู้เสียชีวิตถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 13 แผล ตามลำตัว เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม.
จากการสอบสวนทราบว่า ญาติซึ่งพักอยู่ใกล้กับบ้านผู้เสียชีวิต ได้ยินเสียงร้องของนางสุวรรณช่วง 6 โมงเช้า แต่ก็ไม่มีใครเอะใจอะไรนึกว่าทะเลาะกันธรรมดา ต่อมาได้มาหาผู้เสียชีวิตที่บ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้าแต่ไม่พบ จนช่วงค่ำก็มาหาอีก และออกเดินตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ไปรวบรวมญาติคนอื่น ๆ เดินค้นหาก็ไม่เจอ เหลือแค่โอ่งที่หน้าบ้าน 3 ใบ พบว่าหนึ่งใบมีคราบแดง ๆ จึงเปิดฝาโอ่งขึ้น เจอนางสุวรรณเป็นศพไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ญาติ ๆ เดินตามหาก็เห็น ลูกเขยและลูกสาวของผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน เมื่อถามหานางสุวรรณไปไหนทั้งสองก็บอกว่าไปเก็บเห็ดที่โคกแต่เช้ายังไม่กลับ จากนั้นทั้งคู่ก็ก็ลุกลี้ลุกลนหอบเอาลูกวัย 3 เดือนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป ก่อนที่ญาติ ๆ จะพบร่างนางสุวรรณ
ทั้งนี้ นางสุวรรณเหลือเพียงลูกสาวคนเดียว และเพิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว โดยนำลูกและสามีใหม่มาอยู่ด้วย ปกติลูกเขยนางสุวรรณจะไม่ยุ่งกับใคร ไม่ทำงาน จึงไม่มีใครรู้ชื่อนามสกุลจริง ส่วนทรัพย์สินของนางสุวรรณ เช่น สร้อยคอทองคำ และสมุดบัญชีเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม ก็ถูกทั้งสองคนเอาติดตัวไปด้วย และก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องเงิน 5 พันบาทของนางสุวรรณหายไป ก็ทะเลาะกัน
ด้าน พ.ต.ท.อำนวย เสนาหนอก รอง ผกก.สืบสวน สภ.บรบือ มหาสารคาม กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่เช็กกล้องวงจรปิด และเช็กตามโรงแรมรีสอร์ต บริเวณอำเภอใกล้เคียง เผื่อคนร้ายไปแวะพักเพราะมีลูกเล็กที่อุ้มไปด้วย ทั้งนี้ จากการตรวจประวัติลูกเขยนางสุวรรณ มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและลักทรัพย์ในพื้นที่นครปฐม