จากกรณีที่เกิดเหตุยิงภายในห้างสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 5 ราย ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุพบอายุเพียง 14 ปี
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่าหลังตำรวจนำตัวเด็กชายผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เชื่อว่าหลังจากนี้เป็นกระบวนการประกันตัว ซึ่งบางรายยื่นหลักทรัพย์เป็นเงิน 5,000 บาท หรือ 20,000 บาท หรือมากกว่านั้นแต่ไม่เกิน 30,000 บาท คาดการณ์ว่าได้ประกันตัว
หากมีเงื่อนไขการเข้าบำบัดทางจิตเวช พ่อแม่หรือผู้ปกครองก็แถลงต่อศาลว่าจะพาไปรักษาตามกำหนด ซึ่งตนมองว่าไม่ยุติธรรมกับผู้ตายอย่างมาก
กรณีที่ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยจิตเวช ประการแรกต้องเข้ากระบวนการรักษาก่อน แต่กรณีนี้เป็นเด็กหากป่วยก็ต้องให้ผู้ปกครองพาไปรักษา หลังจากนั้นก็เข้ารายงานตัวตามปกติ และสามารถเรียนหนังสือต่อไป
ตนไม่สบายใจที่ตำรวจออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะดำเนินคดีกับเด็ก เพราะเทียบกับเด็กแว้นที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาก่อกวนเมื่อถูกจับกุมพ่อแม่ก็ต้องรับผิดชอบมีความผิดด้วย แต่กรณีนี้กลับไม่ชัดเจนหรือเห็นว่าเป็นลูกคนรวยและพ่อแม่ก็ควรออกมาตอบคำถามว่าเด็กมีปืนได้อย่างไร เด็กอายุ 14 ปี เอาเงินที่ไหนไปซื้อปืน
ตนคิดว่าพ่อแม่ต้องโดนข้อหาด้วย โดย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ระบุว่า ถ้าผู้ปกครองสนับสนุนส่งเสริมหรือละเลยให้เด็กกระทำความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งโทษเบา หลายคนจึงไม่กลัว ส่วนความเสียหายทางแพ่ง ทั้งห้างสรรพสินค้า คนเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือผู้ที่ประสบเหตุก็ฟ้องได้
ซึ่งกรณีนี้ผู้เสียหายต้องยื่นฟ้องเชื่อว่าทั้งคนตายคนเจ็บ 7 ความเสียหายเรียกได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตนกลัวอย่างเดียวว่าจะเจ็บฟรี เสียชีวิตฟรี และรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยเป็นประเทศดัดจริต รับสนธิสัญญาสิทธิเด็ก แก้ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับเด็กให้นานาชาติยอมรับ แต่ปลายทาง เมื่อเจอครอบครัวที่ไม่มีความรับผิดชอบทำไมถึงไม่ไปเอาเด็กออกมาจากครอบครัวแบบนี้ เพราะครอบครัวดีๆคงไม่ปล่อยลูกออกมายิงคนอื่นเสียชีวิต
กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีการรับรองเรื่องนี้อย่างไร เพราะไม่ใช่ครั้งแรก คุ้มครองเด็กได้แต่ต้องมีมาตรการดูแลไม่ให้เกิดเหตุ ตอนนี้ปืนมาจากไหนยังไม่รู้เลย เดาว่าอีก 2 วันตำรวจคงไปลงจับร้านขายปืน ซึ่งก็ไม่ได้แก้ปัญหา
โดยตนกลัวว่าผู้เสียหายจะไม่ได้เงิน เพราะพ่อแม่หายไปเลยไม่ออกมาขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ เป็นการสปอยล์เด็กมากเกินไป หากจะแก้ไขควรลงโทษเด็กให้หนักขึ้นเพื่อให้คนในครอบครัวดูแลกันเองเฝ้าระวังไม่ให้เด็กไปทำแบบนี้
ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเด็กป่วย เพราะถ้าป่วยจริงคงไม่ซื้อปืนหรือเก็บกระสุนมากขนาดนี้และพ่อแม่ก็ไม่สนใจว่าลูกกำลังเก็บสะสมอาวุธไว้ในบ้าน