สำนักข่าวaljazeeraได้รายงานว่า ที่โรงพยาบาล Shankarrao Chavan Government Hospital โรงพยาบาลรัฐ ในรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้น เนื่องจากวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 เพียงแค่วันเดียว มีผู้ที่อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลเสียชีวิตมากถึง 24 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทารกแรกเกิดถึง 12 ราย นั่นจึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เดือดในสังคมเป็นอย่างมาก
โดย โยเกช โซลานกี ญาติผู้สูญเสีย กล่าวว่า ทารกอายุ 1 วันของน้องชายเธอเสียชีวิต นับเป็นทารกรายที่ 5 ที่เสียชีวิตในวันนั้น และเธอก็เพิ่งเห็นทารกอีก 4 คนเสียชีวิตไปต่อหน้า หน่วยอภิบาลทารกแรกเกิดของโรงพยาบาลมีความแน่นขนัดมากในวันนั้น โดยมีทารก 4-5 คนถูกนำไปไว้ในตู้อบเดียวกัน ทั้งที่ตู้อบเหล่านั้นถูกออกแบบมาให้เพื่อรองรับทารกได้เพียง 1 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวกลับไม่พูดอะไรถึงเรื่องดังกล่าวมากนัก แค่บอกสั้น ๆ ในโทรศัพท์ว่า เขาไม่มีเวลา เพราะมีรัฐมนตรีกำลังจะลงมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล แต่ในการสัมภาษณ์ก่อนหน้านั้น ผู้อำนวยการชี้แจงว่า ผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ 12 คน ล้วนเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมแล้ว แต่ร่างกายของพวกเขาไม่ตอบสนองต่อการรักษา
ด้าน กิริช มหาจัน หนึ่งในรัฐมนตรีของรัฐมหาราษฏระ ยืนยันว่า ขณะนี้ได้มีการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของทารกและผู้ป่วยอื่น ๆ แล้ว ยอมรับว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 24 คนนั้น เป็นตัวเลขที่เยอะมาก ขณะที่ ราหุล คานธี ผู้นำพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ได้ออกมาโจมตีรัฐบาลประจำรัฐมหาราษฏระ ซึ่งบริหารโดยพรรคของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพันธมิตรว่า พรรครัฐบาลใช้เงินไปมากมายกับการประชาสัมพันธ์ แต่ขณะนี้กลับไม่มีค่ายาสำหรับเด็ก
ทั้งนี้ พบว่าในวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลยังคงอัดแน่นไปด้วยผู้ป่วยที่เบียดเสียดกันตามทางเดิน เน้นย้ำให้เห็นความระส่ำระสายของโรงพยาบาลรัฐส่วนมาก ซึ่งที่ผ่านมาระบบการดูแลสุขภาพของอินเดียอยู่ในสภาพที่มีความพร้อมไม่เพียงพอ ขาดแคลนทั้งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ สัดส่วนของแพทย์กับคนไข้อยู่ที่ 0.7 ต่อ 1,000 ในขณะที่ตัวเลขซึ่งได้รับการแนะนำจาก WHO คือ 1 ต่อ 1,000
ความจริงแล้ว เหตุการณ์ผู้ป่วยเสียชีวิตในโรงพยาบาลจำนวนมากเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่อย่างใด เพราะว่าเมื่อเดือนสิงหาคม ในรัฐมหาราษฏระ มีกรณีที่ว่าผู้ป่วยแอดมิต 18 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในภูมิภาคธาเน ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นได้สั่งให้มีการสอบสวนแล้วเช่นกัน
ข้อมูลaljazeera