เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางวีณา เนียมสลุด อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 272/3 ถนนราชมนู ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่อยู่ในอาการโศกเศร้าเปิดเผยกับว่า วันนี้ต้องสูญเงินไปถึง 1,072,284 บาท ภายในพริบตา หลังจากหลงกลแก๊งมิจฉาชีพ ที่โทรฯ มาอ้างตัวว่าติดต่อจากกรมบัญชีกลาง ที่ได้ทำเรื่องรับเงินบำเหน็จตกทอดจากสามี คือ นายสมเกียรติ เนียมสลุด อายุ 66 ปี ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเอกสารที่ส่งให้ไปกรอกข้อมูลนั้นถูกตีกลับ เพราะตนเองกำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปติดต่อเรื่องเอกสารที่กรมบัญชีกลางพอดี จึงทำตามที่แก๊งมิจฉาชีพบอกไม่เกิน 5 นาที ก่อนที่เงินเก็บก้อนสุดท้ายหายวับไปจากบัญชีภายในพริบตา
นางวีณา เล่าต่อว่า หลังลาออกจากงานเพื่อมาดูแลสามีวัยเกษียณที่ประสบอุบัติเหตุติดเตียง จนสามีของตนเองได้เสียชีวิตไปเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา ตนเองอยู่กับคุณพ่อวัยชราตามลำพัง ไม่มีลูก มีเงินเก็บก้อนสุดท้ายของตนและสามี ที่ทิ้งไว้ให้ถูกแยกเก็บไว้ 3 บัญชี ในชื่อของตน และเมื่อไม่นานมานี้ ตนได้ไปทำเรื่องกับหน่วยงานต้นสังกัดของสามี คือสำนักชลประทานที่ 3 เพื่อทำเรื่องเงินประกันของสามีที่เสียชีวิต เงินบำเหน็จตกทอด เงินฌาปนกิจ และเงินทุนเรือนหุ้น โดยยื่นเอกสารการเสียชีวิตของสามีผ่านสำนักชลประทานที่ 3 โดยเอกสารจะถูกทำเรื่องส่งไปยังกรมบัญชีกลาง
แต่จู่ๆ วันนี้ช่วงเที่ยง ตนได้รับสายอ้างว่าติดต่อจากรมบัญชีกลาง ที่ตนทำเรื่องไว้ โดยปลายสายระบุข้อมูลส่วนตัวของตนและสามี ทั้งชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ได้อย่างถูกต้องทุกอย่าง ตนจึงไม่ได้เอะใจเรื่องมิจฉาชีพ โดยปลายสายระบุว่า ตนต้องกรอกเอกสารที่ทางกรมบัญชีกลางส่งไปให้ตามบ้านที่อยู่ ก่อนที่จะเดินทางมาที่ กทม. ตนยืนยันว่าไม่มีเอกสารส่งมา ปลายสายจึงบอกว่าเป็นเอกสารสำคัญจำเป็นต้องกรอก แต่สามารถกรอกทางออนไลน์ได้ ให้ตนโหลดแอปพลิเคชันมาติดตั้ง โดยกรอกข้อมูลเป็นชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน และให้สแกนใบหน้า พอตนสแกนใบเสร็จ แอปก็เด้งออกทันที และสายก็หลุดไป ก่อนที่จะมี SMS จากธนาคารว่ามีเงินถูกโอนออกไป 2 บัญชี และอีก 1 บัญชี ที่ตนไม่ได้มีแอปธนาคาร ตนจึงรีบติดต่อ Call Center เพื่ออายัดบัญชี แต่ก็ไม่ทันการณ์ เงินทั้ง 3 บัญชี จำนวน 1,072,284 บาท ถูกโอนออกไปเรียบร้อยแล้ว นางวีณา กล่าว
นางวีณา กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นจึงรีบไปแจ้งความกับตำรวจ ตรวจสอบก็พบว่าเงินได้ถูกโอนไปยังบัญชีม้า 2 บัญชี จำนวน 3 ยอดด้วยกัน และกำลังเร่งติดตามหาเจ้าของบัญชีต่อไป ซึ่งตนดูข่าวเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด ก็เห็นคนเตือนภัยกันอยู่ แต่พอมาวันนี้มาเจอด้วยตัวเอง ตนกลับไม่ได้นึกฉุกใจอะไรเลย เพราะข้อมูลที่มิจฉาชีพมีนั้น เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และตนก็ได้ทำเรื่องกับสำนักชลประทานที่ 3 หน่วยงานต้นสังกัดของสามี และกรมบัญชีกลางจริงๆ แถมมิจฉาชีพยังรู้ด้วยว่า วันนี้ตนต้องเดินทางเข้า กทม. เพื่อไปติดต่อกรมบัญชีกลางในวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ วันนี้ ตนเองจึงออกมาเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นแทน.