กลายเป็นเรื่องราวใกล้ตัวที่ทำให้หลายต่อหลายคนเกิดข้อถกเถียงกันมากเลยทีเดียว หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่า มักจะล้างหมูสับที่ซื้อมาเพราะไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด ซึ่งชาวเน็ตบางส่วนก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ แต่อีกไม่น้อยก็ไม่แนะนำ เพราะนอกจากจะยุ่งยากแล้ว ยังทำให้เนื้อหมูไม่จับกันเป็นก้อน ทำอาหารได้ยาก ส่วนเรื่องความสะอาดนั้น หากนำไปทำอาหารที่ใช้ความร้อนก็ไม่น่ามีอะไรที่ต้องเป็นห่วง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อ.ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ไขคำตอบประเด็นที่สงสัยกันว่า จริง ๆ แล้ว หมูสับควรจะต้องล้างน้ำ ก่อนนำมาประกอบอาหารหรือไม่
ความเห็นของก็คือ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่สกปรกจริง ๆ ก็ไม่ต้องเอาเนื้อสัตว์ที่ซื้อมา ทั้งเนื้อชิ้นหรือเนื้อที่สับแล้ว (ไม่ว่าจะหมูหรือไก่หรือเนื้อวัว) มาล้างน้ำ สามารถนำไปประกอบอาหารได้ เพียงแต่ต้องทำให้สุก ด้วยความร้อนที่มากเพียงพอ ในเวลาที่นานเพียงพอ สำหรับกรณีของ เนื้อหมูสับ (หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่เอามาบด หรือสับแล้ว) ถ้าเอามาล้าง เนื้อสับนั้นมันมักจะละลายไปกับน้ำด้วย จึงไม่แนะนำ
การล้างเนื้อสัตว์ที่เป็นชิ้นใหญ่ ทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่ โดยหวังว่าจะทำให้เนื้อนั้นสะอาดขึ้น เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะเราทำได้เพียงแค่การล้าง คราบไขมัน เศษสิ่งสกปรก เศษดิน ออกไป ไม่ใช่ว่าจะล้างเอาเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ออกไปได้ง่าย ๆ จะเห็นว่าในทางสากล คำแนะนำขององค์การด้านอาหารของประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันตก ก็จะระบุเลยว่า พวกเนื้อสัตว์นั้น ไม่ควรที่จะต้องเอามาล้างน้ำก่อนไปประกอบอาหาร ด้วยซ้ำ
ดังนั้น ประเด็นสำคัญที่หน่วยงานดังกล่าวเน้นกัน คือ การเอาเนื้อสัตว์ไปทำให้สุก เพื่อให้เชื้อโรคที่อาจจะปนเปื้อนมาหมดไป ไม่ใช่การพยายามล้างออกแต่แรก ส่วนกรณีที่บอกว่า จำเป็นต้องล้าง หรือควรต้องล้างน้ำ นั้น จริง ๆ ก็คือ แค่เฉพาะถ้าเราทำเนื้อชิ้นนั้นตกพื้น หรือ เลอะเทอะสกปรกเพราะซื้อมาจากเขียงชำแหละในตลาดสด ที่มีสภาพไม่ถูกสุขลักษณเท่านั้น
สรุป คือ ถ้าไม่ได้ซื้อเนื้อสัตว์มาจากแหล่งผลิตที่มั่นใจ ก็เอามาล้างได้บ้าง (แนะนำให้ใช้น้ำร้อน แค่ราดลงไป แล้วเทน้ำออกก็พอ) แต่ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ที่ซื้อในแหล่งที่สุขอนามัย ก็ไม่จำเป็นต้องล้างเลย เพียงแค่นำมาทำให้สุก ก็เพียงพอจะบริโภคได้แล้ว