เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพทะเล และทนายความวัดบางคลาน เดินทางไปยังวัดบางคลาน เพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบทรัพย์สิน
รวมไปถึงตรวจสอบความเสียหายต่าง ๆ ภายในวัด ตามที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ จากเหตุการณ์ชายชุดดำปิดวัดทำร้ายร่างกาย รักษาการไวยาวัจกร กรรมการ คนงาน และพระสงฆ์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงนำคำสั่งประกาศของเจ้าอาวาสวัดบางคลาน มาติดประกาศขอยกเลิกข้อตกลงทางวาจาที่ให้ไว้ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และให้ผู้ที่ฝ่าฝืนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งขัด
เนื่องจากยังมีแกนนำ จำเลย และชาวบ้าน รวมถึงผู้ที่ถูกศาลพิพากษาแล้วไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ที่เคยทำไว้กับคณะกรรมการที่มี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพลาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งยังมีการฝ่าฝืนทำการตัดกุญแจวิหารหลวงพ่อเงิน และบุกรุกอาศัยอยู่ภายในวัดบางคลานไม่ยอมรื้อถอนเต้นท์ต่าง ๆ
ขณะที่พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเดินทางเข้าไปบริเวณประตูวัด ได้มีชาวบ้านกลุ่มต่อต้านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันประมาณ 20-30 คน ทำการขัดขวางและทำการปิดประตูวัดทุกด้าน เนื่องจากไม่ยินยอมให้พระครูพิสุทธิวรากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินและตรวจสอบความเสียหายต่าง ๆ ภายในวัด
ต่อมา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ได้เดินทางเข้าไปที่วัดบางคลาน พร้อมกับมีการปะทะคารม และแย้งกับเจ้าอาวาส ทำให้ทางพระครูพิสุทธิวรากรเดินทางกลับ จากนั้นก็เดินทางไปศาลจังหวัดพิจิตร เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดพิจิตรคุ้มครองวัดบางคลาน จากกลุ่มที่มาบุกยึดวัดและขัดขวางการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าอาวาสไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป