เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 กันยายน ร.ต.อ.สมพงษ์ ทองรอด ร้อยเวร สภ.ห้วยยอด รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี พบผู้เสียชีวิตภายในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ มีแค็บ สีดำ จอดอยู่บริเวณริมถนนบายพาส ตรัง-สี่แยกอันดามัน ช่วงบ้านควนพล หมู่ 8 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับแจ้งเหตุได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยยอด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรัง จุดห้วยยอด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในรถคันดังกล่าว พบศพชายวัยกลางคนตัดผมเกรียนสวมเสื้อโปโลสีดำ สวมทับด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำคล้ายเครื่องแบบทหาร สวมกางเกงยีนส์สีดำ นอนเสียชีวิตติดเบาะคนขับ โดยมีการปรับเอนเบาะไว้เล็กน้อย ทราบชื่อ ส.อ.ศิริพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือจ่าหมู อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง รับราชการทหารอยู่พื้นที่ จ.ปัตตานี นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับ
ที่ขมับด้านขวาพบรอยกระสุนพุ่งทะลุเป็นรูโบ๋ กระสุนทะลุออกทางขมับซ้าย ข้างตัวพบอาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม. และปลอกกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 1 นัด ตกอยู่ใต้เบาะคนขับ และพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือ 1 ฉบับ มีเนื้อหาลักษณะสั่งเสียถึงอดีตภรรยาซึ่งได้เลิกรากันไปเมื่อ 7 เดือนก่อน
จาการสอบถาม ชายรายหนึ่ง อายุ 59 ปี พ่อตาของ ส.อ.ศิริพษ์ ระบุว่า จ่าหมูและลูกสาวของตนเคยอยู่กินร่วมกันเป็นสามีภรรยา ที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขากอบ แต่ได้เลิกรากันไปเมื่อ 7 เดือนก่อน ด้วยความที่ ส.อ.ศิริพงษ์ค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ร้อน อย่างไรก็ตามหลังเลิกรากันไป ส.อ.ศิริพงษ์ก็ยังวนเวียนมาหาลูกสาวตนอยู่เรื่องๆ แต่ลูกสาวตนก็ไม่ยอมพบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ส.อ.ศิริพงษ์ไปหาลูกสาวตนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยยอด ซึ่งเป็นที่ทำงานของลูกสาว แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ให้พบ จากนั้น ส.อ.ศิริพงษ์ก็มาขับรถวนเวียนอยู่หน้าบ้านตนตลอดทั้งวัน กระทั่งวันนี้มีคนแจ้งว่าพบศพดังกล่าว
ด้านนายณัฐพงษ์ นกศรีแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของร้านณัฐพงษ์ค้าไม้ ซึ่งรถคันดังกล่าวมาจอดใกล้กับร้านห่างไปเพียง 200 เมตร เป็นผู้แจ้งเหตุ กล่าวว่า เห็นรถดังกล่าวจอดอยู่บริเวณริมถนน ก่อนถึงร้านของตนในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 9 กันยายน แต่ตนคิดว่าน่าจะเป็นรถมาจอดปกติ หรือไม่ก็คนเมาขับมาจอดพัก กระทั่งตนออกไปทำธุระข้างนอกกลับมาตอนเที่ยงกว่า ก็เห็นยังจอดอยู่ จึงรู้สึกผิดสังเกต เลยเข้าไปชะโงกดูถึงกับตกใจ พบมีคนนอนอยู่ที่เบาะคนขับโดยมีเลือดไหลออกมาทางจมูกและปาก เลยรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ชันสูตรพลิกศพใน ที่เกิดเหตุ ตลอดจนเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบสำนวนคดี ก่อนส่งศพไปยังโรงพยาบาลห้วยยอด ท่ามกลางญาติของ ส.อ.ศิริพงษ์ที่เดินทางตามกันมา โดยเฉพาะมารดาของ ส.อ.ศิริพงษ์ ที่ถึงกับร่ำไห้ต่อเหตุสลดที่เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมปริปากใดๆ ก่อนญาติทั้งหมดจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลห้วยยอดเพื่อจัดการศพต่อไป โดยมีบรรดาไทยมุงเข้ามามุงดูเป็นจำนวนมาก