วันที่ 18 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุชาวบ้านกินเห็ดพิษอาการสาหัสหลายราย ที่บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 9 ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายทองพูน สำแดงภัย ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 9 ต.ห้วยตามอญ พร้อมด้วยแพทย์ประจำตำบล อสม. และชาวบ้าน กำลังจับกลุ่มพูดคุยหาแนวทางประชาสัมพันธ์ป้องกันเหตุกรณีดังกล่าว
โดย นายทองพูน สำแดงภัย ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 9 เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ได้มีลูกบ้าน คือ นางวิดาวัลย์ พรหมจักร อายุ 58 ปี พร้อมด้วย นางสมใจ ไตรศรี อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านคนสนิทกัน ได้ชวนกันเข้าป่าท้ายหมู่บ้าน เพื่อไปหาเก็บเห็ดมาทำเป็นอาหาร เมื่อเก็บเห็ดมาได้พอประมาณแล้ว ได้นำเห็ดที่เก็บได้มาช่วยกันล้างน้ำทำความสะอาด โดยที่ไม่คัดเห็ดแต่ละชนิดออก จากนั้น นางวิดาวัลย์ ได้นำไปประกอบอาหาร เมนูแกงเห็ด ซึ่งเอาเห็ดทั้งหมดที่หาได้มาแกงรวมกัน
โดยเบื้องต้น นางวิดาวัลย์ ได้ชิมเพื่อปรุงรสไป 2 ช้อนโต๊ะ หลังรสชาติอร่อยได้ที่แล้ว นางวิดาวัลย์ จึงได้ตักแกงเห็ดใส่ถ้วย ให้ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) หลานสาว วัย 10 ขวบ กินกับเพื่อนของลูกชาย วัย 25 ปี พร้อมกัน จากนั้นได้แบ่งไปให้ครอบครัวของ นางสมใจ กินเป็นอาหารค่ำ
เมื่อกับข้าวมาถึง นางสมใจ ได้เรียก ด.ช.บอย (นามสมมุติ) วัย 5 ขวบ ลูกชายคนเล็ก และด.ญ.สวย (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ หลานสาว มากินร่วมกัน โดย ด.ช.บอย จะเป็นคนชอบกินเห็ดมาก จึงกินเยอะเป็นพิเศษ เมื่อกินข้าวอิ่มก็เข้านอนตามปกติ พอรุ่งเช้าของวันที่ 13 ก.ย. 2566 ด.ช.บอย เริ่มมีอาการท้องร่วงถ่ายเหลวอย่างรุนแรง ญาติจึงได้พาไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน โดยที่ญาติไม่ได้บอกหมอว่ากินอะไรมา หมออนามัย จึงได้ใส่น้ำเกลือ พร้อมกับให้กินเกลือแร่ และให้กลับมาพักดูอาการที่บ้าน
ขณะเดียวกัน คนที่กินแกงเห็ดหม้อเดียวกันอีก จำนวน 4 คน ก็เริ่มมีอาการท้องร่วงจนต้องหามเข้า รพ.ภูสิงห์ อีก 4 ราย แพทย์ดูอาการแล้วน่าจะเกิดจากการกินเห็ดพิษ จึงได้เร่งทำการรักษาโดยการล้างท้องและให้ยามารับประทาน จนอาการของผู้ป่วย จำนวน 3 คนเริ่มดีขึ้นและกลับบ้านได้ แต่ยังมี ด.ญ.บี หลานสาวของ นางวิดาวัลย์ ที่อาการยังต้องดูแลอย่างใกล้ที่ และยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ภูสิงห์
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2566 นางทองดา ทัดแก้ว อายุ 70 ปี ญาติข้างบ้าน บอกว่า อาการของ ด.ช.บอย ไม่ดีขึ้น เริ่มมีอาการอิดโรย ปากซีด ตัวซีด ร่างกายอ่อนแรง นางสมใจ ผู้เป็นแม่ จึงได้รีบนำลูกชายไปหาหมอที่ รพ.ภูสิงห์ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แพทย์ฟัง แพทย์เห็นว่าอาการหนัก จึงรีบส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ศรีสะเกษ จากนั้นแพทย์ได้ตรวจรักษา พบว่าอาการสาหัส ตับไม่ทำงาน ไตวาย สมองบวม จึงได้ส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.รามาธิบดี กรุงเทพมหานคร โดยใช้รถพยาบาลของ รพ.ศรีสะเกษ นำส่งอย่างเร่งด่วน
เมื่อถึง รพ.รามาธิบดี กรุงเทพมหานคร แล้ว แพทย์ระบุต้องเปลี่ยนถ่ายตับโดยด่วน 1 ข้าง โดย น.ส.กาญจนา ไตรศรี อายุ 27 ปี พี่สาวของ ด.ช.บอย อาชีพรับจ้าง ที่ จ.ชลบุรี ทราบข่าว จึงอาสาเสียสละตับตัวเองหนึ่งข้าง เพื่อช่วยชีวิตน้อง เพราะน้องชายอายุยังน้อย อนาคตยังอีกยาวไกล จึงเสนอตัวให้แพทย์ทำการผ่าตัดเอาตับของตนให้น้องเพื่อต่อชีวิต โดยไม่คิดลังเล จากนั้นแพทย์ได้ดำเนินการผ่าตัด จนกระทั่ง น.ส.กาญจนา ฟื้นและอาการปลอดภัยดี ส่วน ด.ช.บอย ยังอยู่ในระหว่างทำการผ่าตัด และยังไม่รู้สึกตัวในขณะนี้
อย่างไรก็ตามสำหรับ ครอบครัวของ นางสมใจ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 3 คน ลูกสาวคนโต อายุ 30 ปี ทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด ลูกสาวคนที่ 2 คือ น.ส.กาญจนา อายุ 27 ปี ผู้บริจาคตับให้น้อง ทำงานที่ จ.ชลบุรี และด.ช.บอย อายุ 5 ขวบ ครอบครัวนี้มีฐานะยากจน ยังไม่ได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 60 ปี และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่มีที่ดินทำกิน ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป กรีดยาง ถอนมัน หาของป่า เลี้ยงลูกตามลำพัง ถือว่าชีวิตค่อนข้างลำบาก ไม่มีเงินเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิต ซึ่งในขณะนี้ นางสมใจ ก็ค่อนข้างทุกข์หนัก เพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมารักษาลูกชาย ได้แต่วอนขอผู้ใจบุญช่วยเหลืออนุเคราะห์คนยากไร้ตามเห็นสมควร
ข่าวโดย พิสิษฐ์ สิริวิริยะธนา ผู้สื่อข่าวจังหวัดศรีสะเกษ
เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews