จากกรณีชุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมขนส่งทางบก และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการ พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม จับกุม นายเสถียร เรืองสมุทร อายุ 38 ปี และ นายศริสร สุทธิเจต อายุ 44 ปี สองผู้ต้องหาแก๊งสวมทะเบียนรถ
โดยแอบใช้รหัสยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเจาะข้อมูลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ จากนั้นไปแจ้งหายเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ ก่อนนำไปจำนำหรือขาย โดยปูพรมยึดรถได้ 65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท
ซึ่งต่อมาทางด้านพระเอกดัง มาริโอ้ เมาเร่อ ได้ออกมายอมรับว่าเป็นดารา ม. ที่มีชื่อเอี่ยวโยงแก๊งดังกล่าว หลังซื้อรถมาจากรุ่นพี่ที่รู้จัก พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เตรียมให้ปากคำกับทางตำรวจ
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค. 66 พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท เปิดเผยว่า ทางชุดทำงานได้มีการออกหมายเรียกมาริโอ้ นักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา และยังไม่ได้มีการให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นว่า ซื้อรถต่อมาอีกทอดหนึ่ง ไม่ใช่การซื้อซากรถแล้วนำมาประกอบ
ซึ่งเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งในส่วนนี้เพื่อความชัดเจน จะต้องเรียกนักแสดงหนุ่มให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน
นอกจากนี้ ต้องสอบพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลที่สามที่ดาราหนุ่มอ้างว่ามีการติดต่อซื้อขายกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำมาดูด้วยว่ามีเจตนาว่าซื้อโดยไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถไม่ถูกต้อง หรือรู้อยู่แล้วแต่ตั้งใจ จงใจซื้อ โดยยังไม่เชื่อในคำให้การทั้งหมดของนักแสดงหนุ่ม
เรียบเรียง มุมข่าว