จากกรณีที่มีคนไปพบร่างนายไพบูลย์ โจมรัมย์ หรือแอ๊ด อายุ 31 ปี และ ด.ญ.มลชยา อิ่มสุข หรือน้องข้าว อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งผูกคอติดกับตัวบ้าน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 201/2 หมู่ 2 ต.สาวเอ้ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ซึ่งคาดน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 3 วันแล้ว
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสลดใจให้กับชาวบ้านและผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก หลังจากที่รู้สาเหตุการจบชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากความยากจนไม่มีเงินแม้แต่จะให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อนคู่ใจเพราะภรรยาหนีไปมีครอบครัวใหม่ ต้องใช้ชีวิตด้วยการรื้อสังกะสี หลังคาบ้าน ไปขายเอาเงินให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ เพราะถูกตัดมานานกว่า 3 ปีแล้ว
นางปดอึก ประโคน อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า หลังจากบ้านนายแอ๊ดถูกตัดน้ำตัดไฟ รู้สึกสงสารเพราะไม่มีเงินไปจ่าย ตนรู้สึกสงสารเด็กจึงให้ต่อน้ำไปใช้แต่ยังไม่ให้ต่อไฟไปใช้ ภรรยานายแอ๊ดหนีไปเอาสามีใหม่ ทิ้งลูกให้เลี้ยงคนเดียวและยังมีโรคประจำตัว หาเงินให้ลูกไปโรงเรียนไม่ได้ ส่วนตัวคาดว่าพ่อน่าจะทำเด็กก่อน เพราะเห็นเดินหน้าก้มหน้าไม่พูดจากับใคร โดยไม่เห็นน้องข้าวเดินไปด้วย
โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก็ไปพบแบบฟอร์มเอกสาร ใบขอทุนเรียนดีของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ถูกวางทิ้งไว้ในบ้าน โดยคาดว่า เด็กหญิง 10 ขวบน่าจะขอมาจากคุณครู
แต่ใบเอกสารดังกล่าวยังไม่มีการกรอกข้อมูลประวัติ นอกจากนี้ยังจดหมายที่คาดว่าผู้เป็นพ่อเป็นคนเขียนไว้ มีข้อความว่า มีคนคิดใหม่อยู่ไปอะไร เกิดแก่ก็เห็นแล้ว เห็นโลกมาหมดแล้ว เสียชีวิตดีกว่า พร้อมกับวาดภาพใบหน้าคน 2 คน ด้านท้ายของจดหมาย สร้างความรันทดใจให้กับเจ้าหน้าที่อย่างมาก
เรียบเรียง siamnews