นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แถลงผลการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย
โดย นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นวันที่ 18 หรือ 21 สิงหาคม ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย อยากให้มีการเลือกเร็วที่สุด คือวันที่ 18 สิงหาคม และคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ยังคงย้ำมติเดิม เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เพราะมั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกิน 375 เสียง
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 จังหวัดระยอง พรรคเพื่อไทย มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันเนื่องจาก มีการประเมินสถานการณ์ความพร้อมรอบด้าน พรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ และอีกเหตุผลหากพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครอาจจะมีความเห็นต่างและความเห็นแย้งในพื้นที่เลือกตั้งมาก อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในลำดับที่สี่ได้เพียง 11,000 คะแนนเท่านั้น
เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคก้าวไกลมีมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่าจะไม่ยกมือโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ย้อนถามว่าเป็นคำถามหรือแจ้งให้ทราบ ถ้าแจ้งให้ทราบก็ขอบคุณครับ
เมื่อถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีอย่างไรต่อมติของพรรคก้าวไกล นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าเราไม่มีท่าทีใดๆ เพราะถือเป็นมติทางการเมืองฝ่ายต่างมีความเห็น เคารพการตัดสินใจของแต่ละพรรคเราไม่ก้าวก่าย ซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถทำงานได้จากทุกภาคในทุกมิติ และเรื่องนี้ยืนยันว่าจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
ถามต่อว่าเป็นไปตามที่ประเมินไว้หรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะมีมติในลักษณะนี้ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราประเมินท่าทีสถานการณ์พรรคก้าวไกลมาตลอด เราเคารพความเห็นและการแสดงออกทางออกพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ที่มีการพูดคุยกันที่ตึกไทยซัมมิท เราก็มีการประเมินสถานการณ์มาโดยตลอด ว่าก้าวไกลมีความเห็นอย่างไร และในการพูดคุยที่เรามีการเสนอทางออกเรื่องการตั้งรัฐบาล 3 แนวทาง แนวทางแรกหากได้รับการสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นรัฐบาลอีกสูตรนึง ซึ่งคำตอบมีความชัดเจนว่าก้าวไกลต้องไปดูความเห็นของประชาชน ความเห็นของสมาชิกพรรค คำตอบที่ออกมาก็ประเมินชัดเจนแล้วว่าโอกาสที่จะได้รับความเห็นชอบจากพรรคก้าวไกลในลงมติให้เพื่อไทยก็ค่อนข้างยาก
ส่วนเสียงสนับสนุนจะได้เท่าไหร่นั้น นายภูมิธรรม ย้ำว่า เรื่องพรรคก้าวไกลเราได้พูดชัดเจนแล้วว่า หากโหวตนายกฯของพรรคเพื่อไทย เราก็ขอบคุณ แต่หากไม่โหวตก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ ส่วนจะได้เท่าไหร่ ตนมั่นใจว่าเกินเกิน 375 เสียง ดังนั้นหากโหวตวันที่ 18 หรือ 21 สิงหาคม ก็น่าจะดำเนินการได้รวดเร็ว และหากโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไหร่ ก็จะเดินหน้าตั้งรัฐบาลทันที เข้าใจว่าเรียบร้อย และมั่นใจว่า นายเศรษฐา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลน่าจะจัดตั้งได้แล้วเสร็จปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นกันยายน
เมื่อถามว่า 375 เสียงน้ำพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐเข้าไปอยู่ในสมการแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอร่วมอย่างเป็นทางการ แต่ตอนนี้ถ้าใครโหวตให้เราก็ขอบคุณก็อยู่ในสมการ เราก็จะพิจารณาแต่ไม่มีพันธสัญญาใด แต่ถ้าไม่โหวตให้ก็อยู่นอกสมการ ก่อนโหวตน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อถามว่าอย่างไม่เป็นทางการมีการพูดคุยกับ 2 พรรคเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ามีการหารือและมีความคืบหน้าเรื่อยๆ
เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องการความชัดเจนเรื่องการแบ่งกระทรวง นายภูมิธรรม ย้ำว่าขอให้ผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไปก่อน เพราะขณะนี้คือการพุ่งเป้าไปที่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้
เมื่อถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับพรรคเดิมคุมกระทรวงเดิมมากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่าเป็นหลักการที่น่าสนใจ แต่เราต้องให้เกียรติพรรคร่วม ซึ่งที่ผ่านมาบรรยากาศการพูดคุยก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรต้องน่ากังวล
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉนายเศรษฐา อีกรอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่าทุกคนก็ทราบและรู้จักนายชูวิทย์ดี ประเด็นที่นายชูวิทย์จะนำเสนอก็นำเสนอได้เรื่อยๆไม่มีปัญหาอะไร แต่ความเหมาะสมนายเศรษฐาหรือคุณสมบัติของนายเศรษฐาก็ว่าไปตามกฎระเบียบในการเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านกระบวนการเรียบร้อยก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อรับรองแล้วจะเห็นเหมือนหรือต่างก็ห้ามไม่ได้