วันนี้11 ส.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนถึงวันแม่แห่งชาติ มีเรื่องรักที่มีต่อแม่ไม่มีเสื่อคลาย ว่า ที่หมู่ 7 ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี มีเรื่องราวความรักของแม่ต่อลูก ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ที่แม่เฒ่า วัย 94 ปี ชื่อนางจ้อย จิตรพินิจ ที่มีต่อลูกสาวฝาแฝดพิการ จ.ปราจีนบุรี กับลูกสาวฝาแฝด คือ น.ส.ธิดารัตน์ หรือเล็ก และน.ส.ธัญญา หรือใหญ่ อายุ 52 ปี
โดยลูกสาวฝาแฝดของนางจ้อยนั้น เป็นโรคกระดูกงอกมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ส่งผลให้ลูกฝาแฝดทั้งคู่ของนางจ้อยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนถึงปัจจุบันแม่ต้องดูแลลูกสาวฝาแฝดทั้งคู่มาหลายสิบปีแล้ว
โดยแต่ละวันจะคอยดูแลลูกสาวฝาแฝดพิการทั้งคู่ นับจากการให้น้ำ ป้อนข้าว ทำความสะอาด ไม่ให้เกิดแผลกดทับ เพราะลูกสาวทั้ง 2 ที่พิการ คนแรกธิดารัตน์จะนอนกับที่อย่างเดียวลุกไม่ได้ ส่วนกัลยา ลุกยืนได้ แต่ก็ต้องช่วยประคับประคอง และนั่งไม่ได้แต่ต่อมาในช่วงหลังนี้ ฝาแฝดทั้งคู่ต้องนอนติดเตียงตลอด
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้น เป็นบ้านปูนชั้นเดียวของป้าจ้อย พบป้าจ้อยกำลังป้อนข้าวให้ลูกรักทั้งคู่อย่างเมตตา และ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ป้าจ้อย กล่าวถึงความรู้สึกว่า ความรู้สึกของป้าจ้อย ที่มีต่อลูกสาวฝาแฝดนั้น รักและทะนุถนอมดูแลลูกตลอด และสงสารมาก ที่ลูกสาวฝาแฝดพิการของเธอ กำพร้าพ่อมาตั้งแต่เล็ก แม่รักลูกอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะลูกสาวฝาแฝดทั้ง 2 เกิดมาไม่เหมือคนคนอื่น พ่อมาเสียชีวิตตั้งแต่ทั้งคู่อยู่ในท้องประมาณ 3 เดือน ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ พอ อายุได้ 6 ขวบก็มาพิการแล้ว เกรงว่า ในปั้นปลายนี้ ที่ตนเองสังขารทรุดโทรมมากเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ยิ่งตอนนี้แก่มาก หูตึงฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เดินเหินลำบากมาด่วนตายจากไปลูกพิการจะเป็นอย่างไร? ลูก ๆที่เหลือเกรงว่าจะล้มระหว่างดูแลลูกฝาแฝดได้หาคนมาช่วยป้าจ้อยช่วยดูแลเพิ่มอีกแรงหนึ่ง จึงพอเบาแรงไปได้บ้าง
ก่อนหน้านี้ลูกชายป้าจ้อย ที่บวชเป็นพระนานกว่า 22 พรรษา ได้ลาสิกขาออกมาดูแลแม่ และน้องฝาแฝดทั้ง 2 คอยหาปลา หาผัก มาหุงหาเลี้ยงน้องและแม่ที่แก่ชรามากแล้ว และไม่มีรายได้อื่นใด นอกจากเบี้ยคนแก่ เบี้ยคนพิการของฝาแฝดทั้ง 2 และความเมตตาข้าวก้นบาตรจากหลวงพ่อเงินวัดสะเดาโด่(วัดแก้วสามัคคี)
ทั้งนี้ ก่อนหน้า นั้นปี พ.ศ.2551 ป้าจ้อย เคยได้รับรางวัล “แม่ดีเด่น” จากนางพรรณี แก่นสุวรรณ ผวจ.ปราจีนบุรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติเป็นขวัญและกำลังใจมาก่อนหน้านี้ และยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเงินเจ้าอาวาสวัดสะเดาโด่(วัดแก้วสามัคคี) คอยเมตตาให้ข้าวก้นบาตรมาโดยตลอด
และ จากอดีตที่เมื่อก่อนนี้นั้น คุณยาย จะเดินไปทำกิจกรรมช่วยเหลืองานพระสงฆ์ ที่วัดแก้วสามัคคีธรรม (วัดสระเด่าโด่) ปัดกวาด ถู ล้างจาน จัดเสนาสนะ ขากลับก็จะนำอาหารจากวัดหรือข้าวก้นบาตรพระมาให้ลูกสาวทั้ง 2 คนได้รับประทาน ตอนนี้เดินเหินลำบากจึงเฝ้าคอยดูแลลูกฝาแฝดเท่านั้น”ป้าจ้อยกล่าว
และหากประชาชน ได้รับทราบเรื่องราวความรักของยอดคุณแม่วัย 94 ปี ต่อลูกสาวฝาแฝดพิการทั้งคู่นี้แล้ว หากมีผู้มีจิตเมตตาอยากช่วยเหลืออดีตแม่ดีเด่น กับลูกสาวฝาแฝด สามารถดูแลช่วยเหลือได้ นางจ้อย จิตรพินิจ
ข่าวโดย ชัชวาล ศิริปิ่น ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี
เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews