วันที่ 6 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้รับการประสานงานจาก กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามประเทศจากพม่า จุดเริ่มต้นที่ จ.ระนอง เพื่อส่งไปยังประเทศมาเลเซียและใกลเคียง โดยใช้เส้นทางผ่านหลายจังหวัด และจะมีการลำเลียงลงเรือในพื้นที่ จ.สงขลา และนครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชร่วมออกสอบสวนสืบสวนและติดตามจับกุม
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.และ กก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันสอบสวนสืบสวน แกะรอยเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่องนานถึงเกือบ 3 เดือน จนล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สะกดแก๊งวค้ายาเสพติดที่ใช้รถ 2 คันคันแรกเป็นรถบรรทุก 6 ล้อทึบ มีคนขับมาเพียง 1 คน และรถยนต์ปาเจโร สีขาว มีชายฉกรรจนั่งมาในรถ 2 คนรวมคนขับ ทำหน้าที่เป้นรถนำหน้ารถบรรทุกเพื่อตรวจสอบเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการลับสุดยอด เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และติดตามไปจนถึงบริเวณปั้มน้ำมัน ปทต.ริมถนนสาย นครศรีธรรมราช-สงขลา หมู่ 6 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รถยบรรทุกได้จอดริมถนน ในขณะที่รถปาเจโร่ สีขาวซึ่งทำหนาที่สำรวจเส้นทางขับเลยไปจอดข้างหน้าประมาณ 1 กม. เพื่อรอเครือข่ายที่นัดแนะกันมารับยาเสพติดต่อไปลงเรือที่ชายทะเลหน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่ได้ซุ่มรอดูความเคลื่อนไหวอยู่เกือบ 30 นาที พร้อมรายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะ ในที่สุดผู้บังคับบัญชาเกรงว่าแก๊งคนร้ายจะไหวตัวได้ จึงสั่งการให้ตำรวจรีบเข้าไปตรวจค้นจับกุมรถบรรทุกเป้าหมายทันที กำลังอีกส่วนหนึ่งพยายามตามไปจับกุมรถปาเจโร่ แต่คนร้าย 2 คนในรถปาเจโร ไหวตัวทัน ขับหลบหนีไปรอดไปได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและตรวจยึดรถบรรทุกเอาไว้ได้พร้อมผู้ต้องหา 1 คนเป็นชาวอิสลาม บ้านอยู่ในจังหวัดชานยแดรภาคใต้
จากการตรวจพบยาเสพติด เคตามีน (ketamine) หรือที่รู้จักกันในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติดว่า ยาเค บรรจุในกระสอบขนาดใหญ่เกือบ 62 กระสอบ และในถุงเล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมน้ำหนัก 851 กก. มูลค่าในประเทศประมาณกว่า 225 ล้านบาท แต่หากหลุดรอดออกไปยังประเทศที่ 3 ราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่าหรือประมาณกว่า 2,550 ล้านบาท จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลางมาให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สอบสวนด้วยตัวเอง และทำกสารตรวจนับยาเคของกลางก่อนลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน และมอบยาเค ของกลางให้ตำรวจ บช.ปส.นำไปเก็บรักษาและสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมามีการแพะลงข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้มีตัวการใหญ่อยู่ จ.ลำปาง โดยมีเครือข่ายระดับหัวหน้าจำนวน 7 คน ทั้งในประเทศพม่า จ.ระนอง นครศรีธรรมราช สงขลา และประเทศมาเลเซียและใกล้เคียง ส่วนผู้ร่วมแก๊งระดับปฏิบัติการทำหน้าที่ขนลำเลียงยาเสติดเป็นชาวอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด โดยในเคสนี้มี 3 คน สามารถจับกุมได้ 1 คนหลบหนีไปได้ 2 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. จะได้เร่งสอบสวนสืบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเครือข่ายเชื่อมโยงอย่างละเอียด เพื่อปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมครั้งใหญ่ในเร็ว ๆ นี้
เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์