วันที่ 14 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าได้มีพนักงานกวาดขยะของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ทราบชื่อต่อมาคือนางราตรี ชุมวงค์ หรือป้าแหม่ม อายุ 55 ปี เก็บทองคำรูปพรรณหนักเกือบ 10 บาท ได้ที่หน้าห้องพักอาคารพาณิชย์ ถนนตั้งใจพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์แล้วนำไปลงบันทึกประจำวันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งมีเจ้าของมาติดต่อขอรับทองคืน ต่อมามีผู้นำเรื่องราวไปโพสต์ในโซเชียลปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนางราตรี ชุมวงค์ อายุ 55 ปี โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองเป็นพนักงานกวาดถนนของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์มากว่า 2 ปีแล้ว ในทุก ๆ วันประมาณ 05.00 น.จะมีหน้าที่รับผิดชอบกวาดถนนบริเวณถนนตั้งใจพัฒนา และใกล้เคียง
ส่วนเหตุการณ์ที่พบทองนั้นเช้าวันนี้(14 ส.ค.2566) ตนก็มากวาดถนนตามปกติ และเมื่อกวาดมาถึงหน้าอาคารพาณิชย์ห้องแรกก็พบกล่องทองตกอยู่ทางเดินหน้าห้องดังกล่าวลักษณะเป็นกล่อง ๆ กลม ๆ ฝาเปิดออกเล็กน้อย แต่ตนไม่กล้าจับเพราะขณะนั้นไม่มีพยานรู้เห็น จึงได้ใช้ถังขยะเล็ก ๆ สีเขียวซึ่งวางอยู่หน้าห้องใช้ครอบไว้ จากนั้นก็ไปกวาดขยะตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.จึงแล้วเสร็จและได้กลับมาดู และพบว่าร้านค้าข้าง ๆ ได้เปิดร้านแล้ว จึงได้ชักชวนกันไปดูและพบว่าเป็นสร้อยคอทองคำ 1 เส้น พระเครื่องกรอบหุ้มทอง 1 องค์ สร้อยข้อมือ 1 เส้น และคาดว่าน่าจะเป็นของเจ้าของห้องดังกล่าว จึงได้พยายามโทรศัพท์หาเจ้าของห้องแต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์ จึงได้พากันนำทองดังกล่าวไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเจ้าของมารับคืนต่อไป ซึ่งก็ปรากฏว่าไม่นานก็มีผู้มาแสดงตน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามจนมั่นใจว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงจึงได้มอบคืนไป
นางราตรี ชุมวงค์ เปิดเผยอีกว่าเมื่อเห็นครั้งแรกก็ทราบว่าเป็นกล่องทองแต่ไม่มั่นใจว่าเป็นทองจรองหรือทองปลอมจึงไม่กล้าจับ กระทั่งมีพยานรู้เห็นจึงได้นำไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อทราบว่าเป็นทองจริงและมีเจ้าของมาติดต่อขอรับก็ยิ่งดีใจ เพราะตนเองก็เคยทำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทหล่นหายแต่ไม่ได้คืน ซึ่งตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกันเจ้าของก็คงเสียใจเป็นอย่างมากแน่นอนหากไม่ได้คืน ตนจึงนำไปแจ้งตำรวจโดยไม่คิดที่จะเอาไปเป็นของตนเองแต่อย่างใด
นายอิทธิพล ทองหมู่ อายุ 31 ปี เจ้าของทองรูปพรรณดังกล่าวเปิดเผยว่าตนมีอาชีพเป็นช่างภาพฟรีแลนด์รับงานถ่ายภาพทั่วไป ได้มาเช่าห้องดังกล่าวเพื่อจะทำเป็นสตูดิโอถ่ายภาพและเมื่อวานนี้ได้ขนของเข้ามาเป็นวันแรก หลังจากขนของเสร็จในช่วงค่ำได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยได้นำทองซึ่งประกอบด้วยสร้อยคอทองคำและพระเครื่องน้ำหนักรวมประมาณ 3 บาท สร้อยข้อมือหนัก 4 บาท ใส่กล่องและใส่กระเป๋าคาดหน้าอกไว้ ไม่กล้าเก็บไว้ที่ห้องเพราะเพิ่งย้ายมายังจัดข้าวของไม่เสร็จ ประมาณ 5 ทุ่มจึงเดินทางกลับมาในห้อง และคาดว่ากล่องใส่ทองน่าจะหล่นโดยไม่รู้ตัวตอนที่ตนเปิดกระเป๋าเพื่อที่จะเอากุญแจมาเปิดบ้าน เพราะหน้าบ้านมืดมาก กระทั่งช่วงสายของวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาว่าเป็นเจ้าของทองที่มีคนเก็บได้หรือไม่ ตนจึงรีบเปิดดูกระเป๋าก็ไม่พบ จึงรีบไปที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์และก็พบว่าเป็นทองคำของตนจริง ๆ
ตนต้องขอขอบคุณพี่ราตรี ชุมวงค์ เป็นอย่างมาก ที่เก็บได้และนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าไม่เช่นนั้นตนก็ไม่รู้ว่าทองหายและก็ไม่รู้ว่าหายที่ไหนและอาจจะไม่ได้คืนอย่างแน่นอน ทองดังกล่าวตนเก็บออมจากเงินที่ไปรับจ้างถ่ายรูปและไปซื้อทองเก็บไว้ ถ้าหากหายไปตนคงจะเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็โชคดีที่มาเจอคนดี ๆ อย่างพี่ราตรี
ข่าวโดย อารีย์ สีแก้ว ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเพชรบูรณ์