จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับคะแนนอย่างม่วมท้น ส่งผลให้กลายเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ทำให้นโยนายเงินดิจิทัล กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ คากว่าน่าจะประกาศใช้ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป
คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้แก่ คนไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน เลข 13 หลัก คาดว่าจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิทั้งหมด มีขั้นต่ำประมาณ 50 ล้านคน โดยผู้ได้ที่ได้รับสวัสดิการ เช่น ผู้พิการ คนชรา ยังคงมีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัลเต็มจำนวน ไม่หักลด
ประชาชนไม่ต้องลงทะเบียน เนื่องจากระบบที่จะถูกออกแบบมาใหม่ จะผูกกับบัตรประชาชนของผู้ที่มีสิทธิ์ แม้ประชาชนคนใดจะไม่มีสมาร์ทโฟน หรือ แอปพลิเคชัน ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเงินดิจิทัลสามารถใช้ได้ผ่านเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถใช้จ่าย ณ ร้านค้าต่าง ๆ ในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (ปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทุกคน) สามารถใช้ซื้ออาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกินใดก็ได้ทั้งสิ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยห้าม/ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับอบายมุข ใช้หนี้ สินค้าออนไลน์ ยาเสพติด และการพนัน
ระยะเวลาการใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน โดยสามารถใช้จ่ายรวดเดียว 10,000 บาท หรือทยอยใช้ก็ได้
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสดได้ โดยให้ประชาชนใช้จ่ายเงินผ่านร้านค้าที่รับชำระดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ยังเคยระบุไว้ด้วยว่านโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัลนี้ ไม่มีความเสี่ยง มีความปลอดภัยสูง ไม่ใช่เงินสกุลใหม่จึงง่ายต่อการใช้จ่าย สามารถแลกเป็นเงินสดได้สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จดทะเบียนการค้า นั่นหมายความว่า กลุ่มเดียวที่จะสามารถแลก เงินดิจิทัล เป็นเงินสดได้น่าจะมีแค่ พ่อค้าแม่ค้าที่จดทะเบียนการค้าเท่านั้น
เรียบเรียง สยามนิวส์