จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เผยถึงประเด็นร้อนการเมืองเตรียมแฉ นายกฯ คนต่อไป โดยบางช่วงบางตอนในรายการ หมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้พยายามยิงคำถามให้นายชูวิทย์ตอบ ถึงประเด็นที่นายชูวิทย์ รวบรวมหลักฐานไว้เตรียมแฉ โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า กรณีนี้ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จะกระทำการหาที่ดินเข้าบริษัทตัวเอง มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท จากนั้นใช้วิธีการทยอยขาย เพื่อให้เกิดการเสียภาษีน้อยลง
มีการกระทำนิติกรรมอำพราง ไม่ได้ทำในวันเดียว ทำให้เกิดการเสียภาษีลดน้อยลง กรณีนี้ทำให้รัฐเสียหาย 500 ล้านบาท ซึ่งเคสนี้คนซื้อและคนขายต้องมีส่วนรู้เห็นกันด้วย มีการแบ่งการโอน จัดฉากทยอยการโอน ทำให้ประหยัดภาษี ทั้งที่ที่ดินโฉนดเดียวกัน อีกทั้งการซื้อขายที่ดินระดับนี้ มีการนำเงินสด 200 ล้านบาทต่อวัน ไปโอนที่ดิน ส่วนหนึ่งเป็นแคชเชียร์เช็ค ใช้เวลากว่า 10 วัน ในการโอน ซึ่งน่าสนใจว่าพฤติการณ์นี้ไม่มีใครกระทำในตลาดหลักทรัพย์ และมีหลักฐานของราชการด้วย
ล่าสุดที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. กล่าวภายหลังที่แกนนำพรรค พท. และพรรคก้าวไกล ได้มีการประชุมทิศทางในการจัดตั้งรัฐบาลพร้อมถึงพูดประเด็นของนายชูวิทย์ที่จะออกมาแฉว่าที่นายกฯคนต่อไป
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเมื่อจะก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯที่ถูกชื่อเป็นนายกฯในรัฐสภาเหมือนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ก็มีประเด็นที่จะถูกแฉเรื่อยๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เขาก็แฉกันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามา เขาก็บอกว่าจะมีเรื่องที่จะแฉ แต่ก็ไม่เป็นไร ตนเข้าใจเมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ก็ต้องระมัดระวัง ยืนยันว่าตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง