ขาดทุน 30 ล้าน ไม่คิดท้อ‘เอ๋ ไพโรจน์’ วัย 69 ปี เลือกอยู่วงการ ลุยทำหนังใหม่ต่อ
เอ๋ ไพโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า กลับมาทำหนัง ในรอบ 30 ปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จตามคาด เพราะต้องเจอกับสถานการณ์
หนังต้องเลื่อนฉายหลายครั้ง ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงวัยไม่ออกมาดู บวกกับถูกโรงหนังลดรอบฉาย แม้จะยอมรับว่าเหมือนถูกรังแก
แต่ไม่ถือโกรธเคืองกัน กับวิกฤตที่ผ่านมา กลับมองบวกเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ไม่พึ่งโรงหนังอย่างเดียวแล้ว
แต่หันมาพึ่งพาตนเองมากขึ้น ด้วยการเริ่มสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเอง ให้คนดูจ่ายเงินสนับสนุนหลังดูจบตามระดับความพึงพอใจ
เป็นยังไงบ้างกับภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายอยู่ที่จังหวัดน่าน มันยังค้างอยู่ แต่คิดว่าจะต้องไปถ่ายอีกแล้วก็กำลังเขียนบทเพิ่มอยู่เพื่อให้มันเข้มข้นขึ้น
ทำไมถึงสนใจอยากทำหนังเกี่ยวกับจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ในตัวแต่ก่อนเป็นจังหวัดที่ไปยากมาก ที่เคยไปถ่ายหนังเรื่องสุภาพบุรุษทรนงที่จังหวัดแพร่แล้วก็มีวันหนึ่งหยุดแล้วไปเที่ยวน่าน
ขับรถไปตอนเช้า บ่ายโมงแล้วเพิ่งได้ครึ่งทาง ถ้าแบบนี้ไปไม่ทันเดี๋ยวพรุ่งนี้จะต้องถ่ายหนังต่อก็ต้องเลี้ยวกลับ มันก็เลยมีความผูกพัน อยากไปๆ จนกระทั่งตอนหลังมีเครื่องบินแล้ว
ก็เลยไปครั้งแรกที่ไปประทับใจมาก บ้านเมืองสวยงาม ผู้คนดีการท่องเที่ยวดี อากาศก็ดี มันเลยเป็นความประทับใจและอีกอย่างนึงก็คือว่ามันมีตำนานรักบันลือโลก
ก็คือปู่ม่านย่าม่าน ผมเป็นคนชอบทำหนังฟีลกู๊ดดูแล้วมีความสุข เห็นว่าต้องรอเทศกาลวันสำคัญในจังหวัดน่านด้วย ไม่ครับ แต่ว่าช่วงนั้นเราไปวัดภูมินทร์ไฮไลต์อย่างหนึ่งของจังหวัดน่าน
เรื่องนี้ใช้ทุนไปเยอะไหม ตอนแรกว่าจะไม่เยอะแต่ตอนนี้ชักจะเยอะแล้ว ก็คือว่าเวลาเรายกกองไปถ่ายต่างจังหวัดค่าใช้จ่ายมันจะสูงมาก
ยืนยันว่ายังไม่เข็ดกับการทำหนัง เข็ดมั้ย เข็ดก็ได้ แต่ว่าเราเกิดมากับหนัง ยังไงมันก็ต้องทำ เข็ดอาจจะเข็ดกับโรงหนัง แต่ว่ามันก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่นให้เรา
อะไรผ่านแล้วเราก็ผ่านไป ไม่ถือโกรธกัน ถือว่าเราพลาดทางด้านธุรกิจที่คิดไม่รอบคอบว่าให้คนนี้เขาดูแลแล้วมันเป็นอย่างนั้น ต่อไปเราจะต้องเริ่มคิดใหม่
ยืนยันทำหนังต่อ ไม่เลิกทำ เราเกิดมาเพื่อเป็นตรงนี้โชคชะตาเขาคงไม่ให้ผมไปไหน มันก็ต้องหาวิธีแก้ไข เพราะฉะนั้นก็อยากจะฝากไว้หน่อยแล้วกันว่าตอนนี้เรากำลังทำแพลตฟอร์มอยู่
าแพลตฟอร์มนี้เสร็จเมื่อไหร่ ก็ช่วยกรุณาเข้าไปดูหน่อย เราปรึกษากันว่าเรื่องนี้เราถือว่าเป็นการเปิดแพลตฟอร์ม เราจะไม่กำหนดค่าดู ดูเลยพอใจแค่ไหน สนับสนุนไพโรจน์แค่ไหนก็ให้แค่นั้น
ไม่มีตังค์ไม่ต้องให้ เพราะเราอยากจะให้คนเห็นผลงานเรามากกว่า เราอยากได้ความรู้สึกตรงนั้นมากกว่า ไม่ง้อโรงหนังแล้ว ไม่ถึงกับขนาดนั้น เราอย่าไปพูดแบบนั้น